WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

วัดพระธาตุดอยน้อย

อำเภอจอมทอง โบราณสถานและโบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระบรมธาตุ โข่งพระ (กรุพระ) โบสถ์ วิหาร และพระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลัก บริเวณวัดตั้งอยู่บนภูเขาติดลำน้ำปิง มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบทุกทิศ มีบันไดนาคขึ้นไป 241 ขั้น

 

 

 


อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา

มีน้ำตกให้เที่ยวหลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่เส้นทางยังไม่สะดวกนัก เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างพัฒนาพื้นที่ น้ำตกที่เดินทางเข้าถึงสะดวกที่สุดคือ น้ำตกห้วยทรายขาว ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีแอ่งน้ำให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้แต่ในช่วงฤดูแล้งน้ำจะน้อยมาก จะมีน้ำเยอะช่วงเดือนพฤษภาคมแต่น้ำจะขุ่น น้ำจะใสช่วงหลังฝน ชั้นบนของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและมีทรายอยู่เนื่องจากน้ำพัดเอาทรายมาจากการกัด กร่อนของหินทราย ชั้นบน อากาศบริเวณน้ำตกชื้นจนทำให้มีมอสจับอยู่

แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกแม่ฝางหลวง น้ำตกดอยเวียงผา น้ำตกห้วยหาน และจุดชมวิวดอยเวียงผา อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผามีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 583 ตารางกิโลเมตร สภาพป่าในพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นป่าดิบเขาและป่าเบญจพรรณ นอกจากนี้ยังมีป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และป่าสนเขา นกที่พบ เช่น นกกินปลี และนกพญาไฟ สัตว์ป่าที่พบส่วนใหญ่จะเป็นขนาดกลางและสัตว์ขนาดเล็ก ได้แก่ กระรอก กระต่าย หมูป่า อีเห็น เก้ง เลียงผา เสือไฟ เม่น หมีควาย เป็นต้น

ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานมีบริการบ้านพัก 2 หลัง โดยติดต่อที่อุทยานโดยตรง

การเดินทาง จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ไปประมาณ 125 กิโลเมตร อยู่ก่อนถึงตัวเมืองไชยปราการประมาณ 2 กิโลเมตร ให้สังเกต โรงเรียนศรีดงเย็นทางด้านซ้ายมือ ทางเข้าอุทยานอยู่ฝั่งตรงข้าม (ด้านขวามือ) เข้าไปประมาณ 12 กิโลเมตร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือเขต 1 โทร. 0 5324 8604, 0 5324 8607, 0 5330 2500 โทรสาร 0 5324 8605, 0 5330 2501


ล่องเรือยางแม่น้ำแม่แตง

แม่น้ำแม่แตง มีช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งด้วยเรือยางเป็นระยะทางยาวถึง 10 กม. ซึ่งใช้เวลาล่องประมาณสองถึงสองชั่วโมงครึ่ง โดยทำการล่องได้ตั้งแต่บ้านสบก๋ายถึงบ้านเมืองกี๊ด ซึงพอจะแบ่งเป็นช่วงๆดังนี้ ช่วงแรก จากบ้านสบก๋ายถึงปางเกาะ ระยะทางประมาณ 5กม. มีความยากอยู่ระดับ 2-3 ช่วงนี้เป็นช่วงที่สนุกสนาน และมีความปลอดภัยสูงเหมาะกับการทำความคุ้นเคยในการร่วมกันบังคับเรือให้ผ่าน เกาะแก่งต่างๆ มีแก่งใหญ่ๆที่ สนุกตื่นเต้นแต่ไม่อันตราย ประมาณ 6 แก่ง

ช่วงที่สอง จากปางเกาะถึงบ้านห้วยมะซาง ระยะทางประมาณ 2 กม. มีความยากอยู่ที่ระดับ 4-5 ช่วงนี้เป็นช่วงที่มึความยากสูงสุดของแม่น้ำสายนี้ประกอบด้วยแก่งน้ำตกใหญ่ๆ ประมาณ 7 ถึง 8 แก่ง เป็นช่วงที่ต้องการความเป็นทีมเวิร์กสูงสุด และต้องการนักท่องเที่ยวที่มีความพร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจ

ช่วงสุดท้าย จากบ้านห้วยมะซางถึงบ้านเมืองกี๊ด ระยะทางประมาณ 4 กม. มีความยากอยู่ที่ระดับ 3-4 ช่วงนี้เป็นช่วงที่บริษัทผู้ให้บริการการล่องแก่งด้วยเรือยางส่วนใหญ่ใน เชียงใหม่ใช้กัน มีแก่งใหญ่ที่สนุกตื่นแต้นอยู่ประมาณ 6 แก่ง โดยเฉพาะช่วงที่สนุกที่สุดเป็นแก่งใหญ่ต่อกันถึง 3 แก่งยาวรวม 500 เมตร ที่สร้างความตื่นแต้นให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

การล่องแก่งด้วยเรือยาง เป็น High Light ซึ่งเป็นโปรแกรมทัวร์ของบริษัทฯจะทำการล่องตลอดทั้งสามช่วงดังกล่าว ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การล่องแก่งคือเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม


บ้านเปียงหลวง    
อำเภอเวียงแหง อยู่ติดชายแดนไทย - พม่า มีด่าน ช่องหลักแต่ง เป็นด่านชั่วคราวที่เปิดการค้าขายชายแดนในระดับท้องถิ่นในยามเหตุการณ์สงบ ด่านจะเปิดให้ชาวบ้านในละแวกข้ามมาค้าขายกันได้ ชาวบ้านในตำบลนี้เป็นจีนฮ่อและไทยใหญ่ โดยชาวจีนฮ่อนั้นอพยพเข้ามาในสมัยเจียงไคเช็คเป็นประธานประเทศ แต่ก็ยังไม่ละทิ้งวัฒนธรรมเดิม ทุกคนจะเรียนภาษาจีนเพิ่มเติมตอนเย็นโดยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไต้หวัน

เวียงท่ากาน    
เป็นเมืองเก่าแก่แห่งหนึ่งในสมัยหริภุญชัย เชื่อว่าเมืองนี้คงจะเริ่มสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 13 สมัยพระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์ผู้ครองแคว้นหริภุญชัยสืบต่อมาจนถึงสมัยพญามัง รายช่วงก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ โบราณสถานที่สำคัญอยู่บริเวณกลางเมืองในเขตโรงเรียน วัดท่ากาน และวัดต้นกอก โบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระพุทธรูปหินทราย พระพุทธรูปดินเผา พระพิมพ์จำนวนมาก ไหเคลือบสีน้ำตาลบรรจุกระดูก และเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ.1823-1911) 

ปัจจุบัน เวียงท่ากานอยู่ในเขตท้องที่บ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง ห่างจากเมืองเชียงใหม่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 108 ประมาณ 34 กิโลเมตร ผ่านอำเภอสันป่าตองแล้วเลี้ยวซ้ายที่บ้านทุ่งเสี้ยว เข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร หรือโดยสารรถประจำทางสายโรงวัว-ท่าวังพร้าว คิวรถอยู่ข้างประตูเชียงใหม่

ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่
ตั้งอยู่บนถนนสายเชียงใหม่-หางดง เป็นที่รวมศิลปะและวัฒนธรรมของล้านนา เป็นหมู่เรือนไทยไม้สักประตูหน้าต่างประดับด้วยไม้แกะสลักอย่างสวยงาม ภายในบริเวณมีพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ "สบันงา" มีร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน และมีหมู่บ้านชาวเขาให้เที่ยวชม ส่วนในตอนกลางคืนมีบริการอาหารเย็นแบบ“ขันโตก” ซึ่งประกอบด้วยอาหารเหนือ เช่น แกงฮังเล น้ำพริกอ่อง แคบหมู เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวจะรับประทานอาหารและชมการแสดงฟ้อนพื้นเมืองไปพร้อมๆ กันเมื่อเสร็จสิ้นการแสดงฟ้อนรำพื้นเมืองแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ม้ง (แม้ว) อีก้อ มูเซอ เย้า และลีซอ อีกทั้งแต่ละเผ่ามีการแสดงที่ไม่เหมือนกัน โดยแสดงทุกวันตั้งแต่เวลา 19.00-22.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 5327 4540, 0 5327 5097 นอกจากนี้ยังสามารถชมการแสดงและรับประทานอาหารค่ำขันโตกดังกล่าวได้ ที่ ลานนาขันโตก โรงแรมเพชรงาม  โทร. 0 5327 0080 -5   แม่ปิงขันโตก โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง โทร. 0 5327 3900 คุ้มแก้วพาเลส โทร. 0 5321 4315  ขันโตกบ้านร้อยจันทร์ โรงแรมปางสวนแก้ว โทร. 0 5322 4444 และ สิบสองปันนา โทร. 0 5381 0695 ได้ในเวลาเดียวกัน และอัตราค่าบริการใกล้เคียงกัน

บ้านถวาย http://www.ban-tawai.com

อยู่ถัดจากเหมืองกุงไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 15 ถึงห้องสมุดประชาชนอำเภอหางดง จึงแยกซ้ายเข้าหมู่บ้าน มีโรงงานผลิตไม้แกะสลักเพื่อจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง มีชื่อเสียงในการทำผลิตภัณฑ์เลียนแบบของเก่า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมการผลิตและซื้อเป็นสินค้าที่ระลึกได้


วัดป่าแดด

ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าผา อำเภอแม่แจ่ม สิ่งที่น่าสนใจ คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ วาดโดยช่างแต้มชาวไทยใหญ่ เป็นเรื่องพุทธประวัติ และชาดกต่างๆ วิหารหลังนี้สร้างขึ้น พร้อมกับการสร้างวัด เมื่อ ประมาณปี พ.ศ. 2400


เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่ริม 
อยู่ ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติศรีลานนา เป็นเขื่อนที่กรมชลประทานสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2520 เสร็จในปี พ.ศ. 2528ตั้งอยู่ที่หลักกม.ที่ 41 บนถนนสายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 11 กิโลเมตร อยู่ในเขตอำเภอแม่แตง มีที่พักและร้านอาหารบนเรือนแพไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว

วัดพระธาตุดอยเกิ้ง
ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลท่าเดื่อ อำเภอดอยเต่า ห่างจากที่ว่าการอำเภอดอยเต่าประมาณ 60 กิโลเมตร พระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุส่วนพระนลาฏ(หน้าผาก) ตามประวัติกล่าวว่าเมื่อ พ.ศ.1200-1260 พระนางจามเทวีกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชยได้ทำการบูรณะ ต่อมา พ.ศ. 2462 ครูบาศรีวิชัยเป็นประธานในการบูรณะปฏิสังขรณ์ ในวันเพ็ญเดือน 3 วันมาฆะบูชา จะมีพิธีสรงน้ำพระธาตุ ทุกปี

พิพิธภัณฑ์แหล่งเตาเผาอินทขิล  

ตั้งอยู่ที่บ้านสันป่าตอง ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง เป็นบริเวณขุดพบแหล่งเตาเผาอินทขิลเมืองแกน ซึ่งนับว่าเป็นการค้นพบที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี เพราะเป็นการยืนยันว่า "ทุ่งพันแอกพันเฝือเมืองแกน" ที่มีมาตั้งแต่สมัยพญามังราย (พ.ศ.1801-1854) นั้นมีอยู่จริงตามประวัติศาสตร์ล้านนา นอกจากนั้นยังมีความสำคัญทางโบราณคดี เพราะแหล่งที่ค้นพบนี้มีความสมบูรณ์ทั้งเตาเผาและตัวอย่างเศษถ้วยชาม ซึ่งในภาคเหนือตอนบนยังไม่เคยพบแหล่งใดที่มีความสมบูรณ์สวยงามเช่นนี้มา ก่อน จากหลักฐานที่พบมีการสันนิษฐานว่าบริเวณบ้านสันป่าตองน่าจะเคยเป็นแหล่ง ผลิตเครื่องปั้นดินเผาแหล่งใหญ่ของล้านนาที่มีอายุระหว่าง 500-600 ปี (คาดว่าแหล่งเตาเผานี้ถูกสร้างและใช้งานในราวปี พ.ศ.1950-2000) ถ้วยชามที่ถูกค้นพบ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องถ้วยชามเนื้อแกร่ง เคลือบสีเขียวอ่อน หรือเซลาดอน หรือ ศิลาดล (light green glazed stoneware / celadon ware) และชนิดเคลือบสีน้ำตาล (greenish brown glazed stoneware) โดยใช้ดินสีขาวคุณภาพเยี่ยมเทียบได้กับเครื่องถ้วยชามสังคโลกของศรีสัชนาลัย และเครื่องถ้วยชามที่ผลิตจากเตาพาน จังหวัดเชียงราย ที่สำคัญยังพบชิ้นส่วนภาชนะดินดิบ (pre-fired ceramic) ปั้นจากดินสีขาว ซึ่งยังไม่เคยพบในแหล่งเตาโบราณที่ใดมาก่อนในประเทศไทย

แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปนั่งพักผ่อนริมน้ำ รับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติได้


วัดแสนฝาง

ตั้งอยู่ที่ถนนท่าแพ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งที่มีศิลปกรรมพม่าผสมอยู่ โดยเฉพาะเจดีย์ที่มีการตกแต่งลวดลายปูนปั้นวิจิตรงดงาม นอกจากนี้ยังมีกุฏิเจ้าอาวาสซึ่งสร้างมานานกว่า 100 ปี เป็นจุดที่น่าสนใจอีกด้วย ตามประวัติเล่าว่าพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 ให้รื้อที่ประทับของพระเจ้ากาวิโรรสสุริวงศ์ (เจ้าชีวิตอ้าว) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 6 มาสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2420 ครั้นสร้างเสร็จแล้วจึงโปรดให้มีการฉลองในปี พ.ศ. 2421


วัดตำหนัก (วัดศิริมังคลาจารย์หรือวัดสวนขวัญ)

สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2050 ในสมัยพระเจ้าศิริธรรมจักรพรรดิราช (พระเมืองแก้ว) กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์มังราย อาศรมแห่งนี้เป็นที่จำพรรษาของพระศิริมังคลาจารย์ผู้นิพนธ์พระคัมภีร์ “มังคลัตถทีปนี” ปัจจุบันนี้ชำรุดทรุดโทรมปรักหักพังลงแล้ว วัดนี้ตั้งอยู่เส้นทางหางดงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 7-8 ตรงข้ามสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่


สวนรุกขชาติห้วยแก้ว

เป็นที่รวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิดไว้ศึกษาเป็นสถานที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนและยังมีสวนสุขภาพสำหรับออกกำลังกาย ตั้งอยู่ถัดจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทางขึ้นดอยสุเทพ


พิพิธภัณฑ์ชาวเขา       
ตั้งอยู่ในบริเวณสวนล้านนา ร.9 ถนนโชตนา อยู่ในความดูแลของสถาบันวิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะทางด้านชาติพันธุ์วิทยา จัดเก็บรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานวัฒนธรรมของชนเผ่าบนที่สูง หรือ ชาวเขา ประกอบด้วยกลุ่มชนจำนวน 9 กลุ่ม คือ กะเหรี่ยง แม้ว เย้า ลีซอ อีก้อ มูเซอ ลัวะ ถิ่น ขมุ และกลุ่มชนเล็กที่สุดอีกกลุ่มหนึ่งคือ มลาบรี หรือผีตองเหลือง มีลักษณะวัฒนธรรมของตนเองที่แตกต่างกันไป พิพิธภัณฑ์ชาวเขาได้จัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ประเพณี ความเชื่อและภูมิปัญญาชาวเขา ซึ่งถูกนำมาถ่ายทอดผ่านการจัดแสดงทางวัตถุศิลป์ จัดเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมชาวเขาที่เป็นประโยชน์ในการศึกษาค้น คว้าสำหรับผู้สนใจทั่วไป เปิดทุกวัน เวลา 9.00-16.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 5321 0872, 0 5322 1933

อุทยานแห่งชาติศรีลานนา
จัดเป็นป่าต้นน้ำลำธารชั้นหนึ่ง ประกอบด้วยสัตว์ป่าและสภาพป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมเนื้อที่ป่าแม่งัด ป่าแม่แตง และป่าเชียงดาว ในท้องที่อำเภอพร้าว อำเภอแม่แตง และอำเภอเชียงดาว รวมเนื้อที่ 652,000 ไร่ ลักษณะเป็นป่าดิบเขา ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวเหนือใต้ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร ไหลสู่แม่น้ำปิง

ถ้ำโบราณ  
ตั้งอยู่ที่ บ้านลีซอแม่แตะ ต.เมืองแหง เป็นถ้ำของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือ ยุคหินกลางอายุประมาณ 5,000 ปี มีความลึกประมาณ 69 เมตร และพบขวานหินกะเทาะฝังอยู่บริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำ รวม 8 อัน อายุประมาณ 4,000-5,000 ปี พบว่าอยู่ในยุคโคบินเนียน หรือ ยุคหินกลาง

พระบรมธาตุแสนไห   

อยู่ที่ตำบลเมืองแหง จากบ้านเมืองายเข้ามา 55 กิโลเมตร เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแต่มาได้รับการบูรณะในพ.ศ. 2457 เป็นปฏิมากรรมผสมระหว่างพม่าและล้านนาไทย ซึ่งการก่อสร้างทับพระธาตุเดิมที่มีขนาดเล็ก โดยของใหม่มีสันถาร 8 เหลี่ยม สันนิษฐานว่าที่นี่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยกทัพไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 หลังจากประชุมพลที่เมืองงาย จึงเสด็จไปทางเมืองห้างหลวงซึ่งน่าจะเป็นเมืองแหงในปัจจุบันเพราะมีคูเมือง ล้อมยาวกว่า 2 กิโลเมตร และเป็นเมืองเดียวที่อยู่ระหว่างเมืองงายกับเมืองอังวะของพม่า เชื่อว่าพระองค์น่าจะเสด็จมาพักทัพที่พระบรมธาตุแห่งนี้และสร้างบ่อน้ำใช้ ส่วนพระองค์และช้างศึกตรงบริเวณด้านหน้าเนินเขาที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ ชาวบ้านเรียกว่าบ่อน้ำช้าง ประเพณีที่สำคัญของวัดนี้ คือ งานสรงน้ำพระบรมธาตุ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี


บ้าน 100 อัน 1000 อย่าง

เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่รวบรวมงานแกะสลักไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้สัก งานแต่ละชิ้นได้รับการแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง โดยสุดยอดช่างฝีมือล้านนา ซึ่งอาจารย์ชรวย ณ สุนทรได้รวบรวมอนุรักษ์ไว้ ตัวอย่างเช่น ไม้ขี้เหล็กสลักภาพครูบาศรีวิชัย ไม้ขี้เหล็กเนื้อแข็งมากและแกะยากจนอาจทำให้เครื่องมือเสียได้ ผู้แกะใช้ไม้เนื้อนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่ครูบาศรีวิชัยได้ต่อสู้ฝ่าฟันมา นอกจากนี้ยังมีไม้แกะพญางิ้วดำซึ่งเป็นไม้หายาก เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.30 - 16.30 น. มีวิทยากรนำชม ค่าบำรุงพิพิธภัณฑ์คนละ 100 บาท นักศึกษามาเป็นคณะ คนละ 50 บาท นักเรียนมาเป็นคณะคนละ 10 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 5335 5819, 0 5382 2649 

การเดินทาง อยู่ในพื้นที่อำเภอหางดง ริมทางหลวงสาย 108 เชียงใหม่-สันป่าตอง-จอมทอง ระหว่างหลักกม.ที่ 19-20 หากมาจากเชียงใหม่จะอยู่ติดถนนฟากซ้ายมือ และจากประตูเมืองเชียงใหม่มีรถโดยสารสีเหลืองผ่านหลายสาย ได้แก่ ทุ่งเสี้ยว, หนองตอง, จอมทอง, บ้านกาด, มะขามหลวง เป็นต้น


อุทยานแห่งชาติแม่โถ    

 มีพื้นที่ประมาณ 990 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ อ.ฮอด และ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน โดยมีดอยกิ่งไร่มงเป็นยอดเขาสูงสุด มีความสูง 1,715 เมตร จากระดับน้ำทะเล เทือกดอยเหล่านี้ปกคลุมด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำแม่แจ่มและลำน้ำแม่ลิด สำหรับสัตว์ป่ายังคงพบเลียงผา เก้ง หมีควาย หมูป่า รวมทั้งนกนานาชนิด

 สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ
จุดชมทิวทัศน์ อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มองลงมายังหุบบเขาเบื้องล่างจะเห็นนาข้าวขั้นบันไดของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง เป็นเส้นคดเคี้ยวดูคล้ายแม่น้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนนาข้าวจะเขียวขจีชุ่มชื้น หากอากาศปลอดโปร่งจะมองเห็นยอดดอยอินทนนท์ ตอนเช้าหมอกจะหนามาก และอากาศเย็นตลอดปี น้ำตกแม่แอบ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามบรรยากาศโดยรอบร่มรื่นน่าเที่ยวชม
ล่องเรือยางสายน้ำสลักหิน เป็นเส้นทางล่องแก่งประมาณ 9 กม. ใช้เวลาในการล่องประมาณ 2 ชั่วโมง มีความยากในระดับ 3-4 ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการล่องคือ เดือนตุลาคม-มีนาคม สามารถติดต่อได้ที่ pop tour โทร. 08 6200 8778, 08 1680 3939
หากต้องการมาพักแรมตรงที่ทำการฯ ซึ่งปัจจุบันมีบ้านพัก 7 หลัง ต้องเตรียมเครื่องนอน และอาหารมาเอง สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ประสานงานอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานกลุ่มนคร พิงค์ โทร. 0 5381 8384 

การเดินทาง อุทยานฯอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 160 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง ถึงกิโลเมตรที่ 55 แล้วแยกเข้าเส้นทางไปแม่โถอีก 16 กิโลเมตร ช่วงนี้สภาพถนนลาดยางสลับลูกรัง ลาดชันและคดเคี้ยวจึงควรใช้รถที่มีกำลังและสภาพดี


อำเภอแม่แจ่ม
เป็นอำเภอเล็กๆในหุบเขามีวัฒนธรรมที่งดงาม ตามประวัติกล่าวว่าที่อำเภอแม่แจ่มในสมัยก่อนเป็นถิ่นอาศัยของชาวลัวะ และต่อมามีชาวไต-ยวนเข้ามา คนแม่แจ่มในปัจจุบันเป็นผู้คนที่ย้ายมาอยู่ตั้งแต่สมัยลัวะ และยังมี ปกากญอ และมอญ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่
การเดินทาง ไปอำเภอแม่แจ่ม ไปได้ 2 ทาง คือ 1) จากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ทางหลวงหมายเลข 1009 (สายจอมทอง-อินทนนท์) เมื่อถึงด่านตรวจอำเภอแม่แจ่ม กม.ที่ 38 แยกซ้ายไปประมาณ 22 กิโลเมตรจะถึงตัวอำเภอแม่แจ่ม 2) จากอำเภอฮอดทางหลวงหมายเลข 108 และแยกขวาเข้าทาง 1088ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร หรือหากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ใช้บริการจอมทอง-แม่แจ่ม รถวิ่งบริการระหว่างเวลา 08.00-18.00 น.

สวนส้มธนาธร  

ก่อตั้งโดยคุณบัณฑูร จิระวัฒนากูล สวนส้มธนากรนัมเบอร์ 1 สายน้ำผึ้ง ส้มฟรีมองต์ ส้มโอเชี่ยนฮันนี่ไร้เมล็ด ส้มผิวทอง ที่สลับกันออกผลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ประกอบด้วย 2 สวนคือ สวนส้มธนาธร 2 (บ้านลาน) เริ่มเพาะปลูกใน พ.ศ. 2527 ในพื้นที่อำเภอฝาง บนพื้นที่กว่า 700 ไร่ โอบล้อมด้วยธรรมชาติขุนเขา และวิวทิวทัศน์ที่งดงามของสวนส้มที่ออกผล ให้ความรู้ในเรื่องการปลูกส้มแก่ ผู้ที่สนใจ ชมวิธีการปลูกมีผักไฮโดรโพนิกส์ ชิมผักสลัดสด และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สดใหม่จากสวน ทางสวนมีบริการรถเรือและรถกอล์ฟนำชมพื้นที่ค่าบริการ 30 บาท/คน

สวนธนาธร 8 หรือสวนท่าตอน เพาะปลูกครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2535 ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย บนพื้นที่ประมาณ 450 ไร่ เพาะปลูกส้ม 2 สายพันธุ์ ได้แก่ส้มสายน้ำผึ้งและโอเชี่ยนฮันนี่ไร้เมล็ด พื้นที่เป็นเนินเขามีจุดชมวิวมองเห็นแม่น้ำกก สามารถนั่งรถเรือชมทิวทัศน์ภายในสวนและเลือกเก็บส้มสด ๆ จากต้น เลือกซื้อของฝากจากร้านขายของที่ระลึก อาทิ ส้มสดจากสวน เทียนหอม กระเป๋า เป็นต้น 

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5334 6554-6, 0 5388 3392-7, 0 5388 3420-2 โทรสาร 0 5334 6598, 0 5388 3833 หรือ www.tntorchard.com


พิพิธภัณฑ์วัดร้องเม็ง  

ตั้งอยู่เลขที่ 1 บ้านร้องเม็ง หมู่ที่ 2  ตำบลหนองแหย่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ภายในวัดร้องเม็งได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นซึ่งนับว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลป วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวล้านนา โดยได้รวบรวมสิ่งต่าง ๆ บ่งบอกถึงความเป็นมาของเรื่องราวในอดีต อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจในเรื่องของ ศิลปะ โบราณวัตถุ ได้เข้ามาแวะเวียนเยี่ยมชมโดยไม่คิดค่าเข้าชมใด ๆ พิพิธภัณฑ์วัดร้องเม็ง เปิดให้ชม และศึกษาทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.30 น.


วัดศรีบุญเรือง

ตั้งอยู่ที่ถนนสิงหไคล สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ประกอบด้วย อุโบสถ และเจดีย์ ซึ่งประมาณปี พ.ศ. 2487 พระครูปัญญา ลังการ ได้บูรณะโดยสร้างเดีย์องค์ใหม่ ครอบเจดีย์องค์เก่า  เป็นวัดหนึ่งในเส้นทางนั่งสามล้อผ่อวัด ไหว้พระ 9 วัดเมืองเชียงราย


โครงการหลวงดอยอินทนนท์

ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขุนกลาง ตำบลห้วยหลวง อำเภอจอมทอง เดินทางตามเส้นทางสู่ดอยอินทนนท์ ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31 ของทางหลวงหมายเลข 1009 มีทางแยกขวามือเป็นทางลูกรังเข้าสู่โครงการฯ อีกประมาณ 1 กิโลเมตร ผู้ขับขี่ควรมีประสบการณ์ และควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์ก่อนเดินทาง โครงการหลวงอินทนนท์ เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อช่วยเหลือชาวไทยภูเขาให้มีพื้นที่ทำกินด้วยการปลูกพืชทดแทนฝิ่น ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้แก่กะเหรี่ยงและม้งในพื้นที่ ผลิตผลหลักของโครงการ คือ พืชผักและไม้ดอกเมืองหนาวต่าง ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแปลงปลูกดอกไม้และไม้เมืองหนาวที่บ้านขุนกลาง งานวิจัยประมงที่สูงการเพาะเลี้ยงปลาเทราท์ ห้องทดลองทำการเพาะขยายพันธุ์ การทำนาขั้นบันได แปลงปลูกกาแฟ แปลงสตรอเบอรี่ที่บ้านแม่กลางหลวง เดินป่าศึกษาธรรมชาติในเส้นทางดอยหัวเสือ เส้นทางบ้านแม่กลางหลวง-น้ำตกผาดอกเสี้ยว ชมน้ำตกสิริภูมิและน้ำตกวชิรธาร และยังสามารถแวะชมแปลงปลูกดอกไม้ของชาวเขาในหมู่บ้านซึ่งอยู่บริเวณปากทาง เข้าโครงการฯ เลือกซื้อผักและผลไม้เมืองหนาวปลอดสารพิษตามฤดูกาล 

ทางศูนย์ฯ ไม่มีบ้านพักรับรองบริการ แต่มีที่พักโฮมสเตย์เปิดให้บริการที่บ้านอ่างกาน้อย บ้านผาหมอน บ้านแม่กลางหลวงและบ้านขุนกลาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โครงการหลวงอินทนนท์ โทร. 0 5326 8555


สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ตำบลอ่างขาง อำเภอฝาง เรื่องกำเนิดของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางแห่งนี้เป็นเกร็ดประวัติเล่ากันต่อมา ว่าครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จทาง เฮลิคอปเตอร์ผ่านยอดดอยแห่งนี้และทอดพระเนตรลงมาเห็นหลังคาบ้านคนอยู่กัน เป็นหมู่บ้าน จึงมีพระดำรัสสั่งให้เครื่องลงจอด เมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงมาทอดพระเนตรเห็นทุ่งดอกฝิ่น และหมู่บ้านตรงนั้นก็คือหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอซึ่งในสมัยนั้นยังไว้ แกละถักเปียยาว แต่งกายสีดำ สะพายดาบ พระองค์มีพระราชดำรัสที่จะแปลงทุ่งฝิ่นให้เป็นแปลงเกษตร สถานีฯ จึงเกิดขึ้นเมื่อพ.ศ. 2512 

มีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ พืชน้ำมัน โดยมุ่งที่จะหาผลิตผลที่มีคุณค่าพอที่จะทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา และทำการส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมแก่ชาวเขาในบริเวณใกล้เคียง สามารถชมแปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว ได้แก่ ท้อ บ๊วย พลัม สตรอเบอร์รี่ สาลี่ ราสเบอรี่ พลับ กีวี ลูกไหน เป็นต้น พืชผักเมืองหนาว เช่น แครอท ผักสลัดต่าง ๆ ฯลฯ แปลงไม้ดอก เช่น คาร์เนชั่น กุหลาบ แอสเตอร์ เบญจมาศ ฯลฯ จำหน่ายผลิตผลตามฤดูกาลที่ปลูกในโครงการฯ และมีที่พักบริการ เปิดเวลา 06.00-18.00 น.

ถนนนิมมานเหมินทร์    
ตั้งอยู่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ หากจะเปรียบแล้ว ถนนนิมมานเหมินทร์ก็คงคล้ายกับถนนสุขุมวิทของกรุงเทพฯ แม้ความยาวและขนาดของธุรกิจจะสู้กันไม่ได้ แต่เปอร์เซ็นต์ความหรูหราของถนนและร้านค้ามีระดับที่มีอยู่อย่างมากมายก็มิ ได้ต่างกันเลย 

อะไรที่ทำให้ถนนซึ่งมีความยาวเพียงกิโลเมตรกว่า ๆ นี้เป็นที่กล่าวขวัญถึงเสมอเมื่อใครสักคนมาเยือนเชียงใหม่ ถึงขนาดว่าถ้าไม่ได้มาเดินช็อปปิ้งบนถนนเส้นนี้ ก็เหมือนว่าจะขาดอะไรไปสักอย่างที่จะทำให้การท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ไม่ สมบูรณ์ 

การเดินเริ่มต้นที่นิมมานเหมินท์ซอย 1 อันเป็นเสมือนตัวแทนของถนนทั้งสายเนื่องจากเต็มไปด้วยร้านระดับเกรดเอ ที่มีการตกแต่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นแกลลอรี่ อาทิ ร้านกองดี แกลลอรี่ หรือร้านขายของตกแต่งบ้านที่มีสินค้าหลากหลายประเภทมากที่สุดของเชียงใหม่ อาทิ ร้านไม้มุงเงิน สุริยันจันทรา ร้านจำหน่ายเทียนหอมอย่างร้านแมวใจดี ไปจนถึงร้านผ้าฝ้ายทอมือที่มีเนื้องานเต็มไปด้วยชีวิตชีวาราคาตั้งแต่ไม่กี่ ร้อยบาทไปจนถึงหลักหลายหมื่น ถนนนิมมานเหมินทร์เปิดทุกวันตั้งแต่เวลาเที่ยงไปจนถึงช่วงเย็น

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

ดำเนินการภายใต้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่าง ยั่งยืน (องค์การมหาชน )ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ  ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง และตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 10 กิโลเมตร

 


ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริฯ
ตั้งอยู่ที่บ้านแม่สา ตำบลแม่สา อำเภอแม่ริม มีเนื้อที่ราว 100 ไร่ เป็นแหล่งการเรียนรู้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นในแบบ edutainment สำหรับเด็ก เยาวชน และผู้ที่สนใจ ประกอบด้วยส่วนนิทรรศการและการสาธิต มีแปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ แปลงพืชผสมผสาน ส่วนสาธิตเศรษฐกิจพอเพียง และมีนิทรรศการโครงการสาธิตและส่งเสริมศิลปาชีพ เป็นต้น เปิดทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. ค่าเข้าชมศูนย์ 10 บาท เยี่ยมชมศูนย์และทำกิจกรรม 40 บาท เข้าค่ายฝึกอบรมพักแรม เปิดทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5329 9758 www.northernstudy.org

อาสนวิหารพระหฤทัยหรือวัดพระหฤทัย

ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง ริมฝั่งแม่น้ำปิงด้านตะวันตก ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2474 โดยบาทหลวงจอร์จ มีราแบล และพระสงฆ์ชาวไทยชื่อคุณพ่อนิโคลัส ที่ร่วมกันสร้างวัดน้อยขึ้นหลังหนึ่งเป็นเรือนไม้หลังย่อม เพื่อให้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของชาวคริสต์ในจังหวัดเชียงใหม่และภาค เหนือ และมีการบูรณะเรื่อยมา จนในปัจจุบันได้มีการก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่และสามารถรองรับผู้ ที่มาประกอบศาสนกิจได้ถึง 600 คน สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่สวยงามแบบยุโรป อาคารทรงเหลี่ยมหลังคาจั่ว มียอดโดมสูงแบบสมัยใหม่ประดับไม้กางเขน ภายในประกอบด้วยรูปวาดและประดับกระจกสีเป็นเรื่องราวที่มาจากพระคัมภีร์ บานประตูไม้แกะสลักที่ละเอียดสวยงาม ถือได้ว่าอาสนวิหารพระหฤทัยเป็นศาสนสถานที่สำคัญยิ่งของชาวคาทอลิกในภูมิภาค นี้

การเข้าชมอาสนวิหารพระหฤทัยควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้า โทร. 0 5327 1859


เจเจ มาร์เก็ต เชียงใหม่

ตั้งอยู่บนถนนอัษฏาธร ห่างจากวงแหวนในตัวเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร ศูนย์การค้าแบบ Open Air รูปแบบเดียวกับตลาดนัดจตุจักรหรือสยามสแควร์ในกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่กว่า 40 ไร่ ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 500 ร้าน เป็นตลาดนัดที่มีความหลากหลายของสินค้า เปิดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ โดยเฉพาะในเช้าตรู่วันพุธและวันเสาร์ตั้งแต่ก่อน 6 โมง จะมีตลาดนัดพืชผักผลไม้แอร์แกนิค มาจำหน่ายด้วยราคาผู้ผลิตโดยตรงและจะเริ่มวายประมาณ 8 โมงเช้า หลังจากนั้นตอนสายร้านค้าต่าง ๆ จะเริ่มเปิด มีทั้งร้านจากโครงการส่วนพระองค์และโครงการในพระราชดำริ ร้านสินค้าหัตถกรรม ร้านบูติกเสื้อผ้า-เครื่องประดับ ร้านอาหาร-ชา-กาแฟ ร้านขายของเก่า ของสะสม เฟอร์นิเจอร์ ภาพเขียน ฯลฯ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับแสดงและจำหน่ายงานศิลปะ ในยามค่ำคืนเจเจมาร์เก็ตจะเป็นแหล่งรวมความบันเทิงในรูปแบบผับแอนด์เรสเตอร์ รอง JJ Market สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 5323 1520-5


ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้

 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริจัดตั้งบริเวณป่าขุนแม่ กวง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พื้นที่ประมาณ 8,500 ไร่ ให้เป็นศูนย์การศึกษาทดลอง วิจัย เพื่อหารูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคเหนือ และเผยแพร่แก่ราษฎรให้สามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเองต่อไป โดยศึกษาพัฒนาป่าไม้ 3 อย่าง 3 วิธี เพื่อประโยชน์ 4 อย่างคือ มีไม้ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตลอดจนความชุ่มชื้นเอาไว้เป็นประโยชน์อย่างที่ 4 และพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์เป็นหลัก โดยต้นทางเป็นการศึกษาสภาพพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำลำธาร และปลายทางเป็นการศึกษาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ผสมกับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม ปศุสัตว์และโคนม รวมทั้งเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นศูนย์ที่สมบูรณ์แบบ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อราษฎรที่จะเข้ามาศึกษากิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์ฯ และนำไปใช้ปฏิบัติอย่างได้ผลต่อไป ดังพระราชดำริว่า "ให้ศูนย์ศึกษาพัฒนาฯ ทำหน้าที่เสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต" ผู้ที่สนใจเข้าชมได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 8.30-16.30 น. หากต้องการวิทยากรนำชมติดต่อล่วงหน้าที่ โทร. 0 5338 9228-9, 0 5324 8004 โทรสาร 0 5324 8483 และผู้ที่ต้องการใช้บ้านพักรับรอง หรือกางเต็นท์พักแรมต้องนำอุปกรณ์มาเองโดยติดต่อขออนุญาตล่วงหน้า บไซต์ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
การเดินทาง
ใช้เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย ประมาณ 23 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาเข้าศูนย์อีกประมาณ 1 กิโลเมตร

ปัจจุบันมีหมู่บ้านรอบศูนย์จำนวน 10 หมู่บ้าน และมีศูนย์สาขาจำนวน 4 แห่ง คือ
- โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำสาขาแม่ปิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
- โครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการพัฒนาพื้นที่ห้วยลานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่


ปางช้าง จังหวัดเชียงใหม่
ในจังหวัดเชียงใหม่มีปางช้างหลายแห่ง ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำให้ช้างในลำห้วยชะล้างสิ่งสกปรกออก และเพื่อให้ช้างสนุกสนานเพลิดเพลินในการที่ได้ลงไปแช่ในน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ควาญจะนำช้างไปใส่เครื่องลากจูงไว้บนหลัง เพื่อลากซุงซึ่งอยู่ในป่ามาแสดงให้ชมด้วยวิธีการต่างๆ โดยจัดแสดงทุกวันในช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.40 - 10.30 น. นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมขี่ช้างและล่องแพตามความต้องการของนักท่องเที่ยว 
 
ศูนย์ธรรมชาติวิทยาดอยสุเทพเฉลิมพระเกียรติฯ ศูนย์

ธรรมชาติวิทยาดอยสุเทพเฉลิมพระเกียรติฯ  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดนิทรรศการถาวร มหัศจรรย์ดอยสุเทพ ให้ศูนย์ธรรมชาติวิทยาศาสตร์ดอยสุเทพฯ  เป็นศูนย์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับดอยสุเทพ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางขึ้นไปเที่ยวบนดอยสุเทพ  โดยมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ และดอยสุเทพ เพื่อจะได้หวงแหนและอนุรักษ์ทรัพยากรอันมีค่าต่อไป


ูสถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว (สวนสนบ่อแก้ว) 

อยู่ริมเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง กิโลเมตรที่ 36-37 อำเภอฮอด สถานีฯเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ เป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสน และยูคาลิบตัส ในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ อากาศของที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี งามด้วยทิวสนที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบงามตาจึงทำให้บริเวณสถานีกลายเป็นสถาน ที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง

การเดินทางหากไม่มีรถยนตร์ส่วนตัวสามารถนั่งรถประจำทางสีฟ้าสายเชียงใหม่-ฮอด-ดอยเต่ามาลงที่หน้าสถานีฯ


สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว
เป็น หน่วยงานของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยู่ในทำเลที่มองเห็นเทือกดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจนและสวยงาม มีนกหลายชนิดที่เห็นอยู่ตลอด เช่น นกเขียวก้านตองสีส้ม นกติ๊ดใหญ่ นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ นกกะรองทองแก้มขาว และ อีกหลายชนิดช่วงฤดูหนาวจากที่พักในช่วงเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกหนา กลางคืนจะเห็นดาวเต็มท้องฟ้าและแสงระยิบระยับจากเมืองเชียงดาว

การเดินทาง
ใช้เส้นทางหมายเลข 107 จากเชียงใหม่ ผ่านแม่ริม แม่มาลัย ที่ตลาดแม่มาลัยสามารถแวะซื้อเสบียงได้) แม่แตง ถึงบ้านแม่นะมีทางแยกซ้ายมือมีป้ายเขียนว่า “หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน” ประมาณ 21 กิโลเมตรจะพบทางแยกให้เลี้ยวขวาสภาพทางเป็นลูกรังจะค่อนข้างชัน ผ่านหมู่บ้านปางโฮ่งและปางฮ่าง ทางจะขึ้นชันมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงด่านที่จะแยกไปหน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้า ขัด ตรงไป ขวามือจะพบทางแยกไปโรงเรียนบ้านสันป่าเกี๊ยะ จากนั้นจะถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ตรงไปอีกสัก 500 เมตรทางจะขึ้นสูงก็จะถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ในขากลับไม่ต้องย้อนทางเดิมจากสถานีฯ มีเส้นทางกลับออกสู่ถนนหมายเลข 107 ที่บ้านแก่งปันเตาได้ จากสถานีมาสัก 12 กิโลเมตรจะถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายและขวา ด้านขวามือจะเขียนว่าไปบ้านปากเอียก (เส้นทางนี้ห้ามใช้โซ่พันล้อรถในหน้าฝน ฝ่าฝืนปรับ 500 บาท) เส้นทางนี้จะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาก็ได้เพราะจะไปออกถนนใหญ่เหมือนกัน แต่ถ้าเลี้ยวขวาจะผ่านเข้าไปในหมู่บ้านปากเอียก ผ่านไร่ชา และผ่านนิคมสงเคราะห์ชาวเขา ทางช่วงนี้จะเป็นทางคอนกรีตตลอด แต่ทางลงค่อนข้างชันจนกระทั่งถึงบ้านแก่งปันเตาและเส้นทางหมายเลข 107
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก มีเรือนพักซึ่งปกติเป็นที่พักของนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาฝึกงาน มีห้องน้ำและห้องครัวพร้อมเครื่องครัว ประกอบอาหารได้ แต่ ต้องนำอาหารขึ้นมาด้วย เสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 50 บาทต่อคืน อย่าลืมเตรียมถุงดำเพื่อใส่ขยะกลับลงมา เครื่องดนตรีไม่ควรนำไป ที่โรงเรียนบ้านสันป่าเกี๊ยะเด็กๆอยากได้หนังสือไว้อ่าน หากเอาติดรถไปบ้างก็ดี การไปเยี่ยมชมควรติดต่อขออนุญาต จากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เสียก่อน โดยติดต่อสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อย่างน้อย 10 วันล่วงหน้า โทร. 0 5322 2014, 0 5394 4052


สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์    

ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 12 สายแม่ริม-สะเมิง สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี 2536 มีพื้นที่ประมาณ 6,500 ไร่  สภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบและที่สูงสลับกันเป็นชั้นๆ ในระดับ 300-970 เมตร จัดทำเป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ลักษณะการจัดสวนของที่นี่จะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพ พื้นที่ รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ สามารถขับรถเที่ยวชมได้จุดที่แวะชมได้ คือ 1. อาคารศูนย์สารนิเทศ เป็นสถานที่อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นสถานที่จัดนิทรรศการ 2.กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ ขนาดต่างๆ 12 โรงเรือน รวบรวมพรรณไม้ประเภทต่างๆจากทั่วประเทศมาปลูกแสดงไว้ในโรงเรือน เช่น ไม้ป่าดงดิบ ไม้น้ำ กล้วยไม้ ไม้แล้ง บัว ไม้ดอกไม้ประดับ บอน ไม้ไทยหายาก ไม้สกุลสัมกุ้ง สมุนไพร 3.ศูนย์วิจัยพัฒนาสง่า สรรพศรี เป็นศูนย์ข้อมูลวิชาการโดยมีนักพฤกษศาสตร์ประจำอยู่ตลอดเวลา 4. เรือนพรรณกล้วยไม้ไทย 5.โรงเรือนอนุบาลพรรณไม้ 6.อ่างเก็บน้ำแม่สาวารินทร์ 7.แปลงรวมพันธุ์ไม้ดอกขาว ซึ่งได้จัดปลูกไปแล้วกว่า 120 ชนิดและมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จัดไว้ 4 เส้น คือ 1.เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) ระยะทาง 300 เมตร 2.เส้นทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตร 3. เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กม. 4. เส้นทางพันธุ์ไม้ประจำจังหวัด ระยะทาง 800 เมตร

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.30-16.00 น. ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาท รถรวมทั้งคนขับ 100 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180 โทร. 0 5384 1000 โทรสาร 0 5329 8177, 0 5329 9754

 
 
 
 
หน้าที่
««